มอนิเตอร์กับการ์ดจอส่งผลสำคัญต่อกันอย่างไร? ระวังคอขวด!

 

หลายคนอาจจะสงสัยกัน การ์ดจอกับจอมีความสัมพันธ์กันอย่างไร การ์ดจอเทพแต่จอถูกใช้ร่วมกันดีมั้ย หรือจอเทพแต่การ์ดจอพอใช้ได้ แบบนี้ไหวหรือเปล่า? บทความนี้เรามีคำตอบครับ

 

 

โดยปกติตามความเข้าใจของคนทั่วไป ของแพงย่อมมี “แนวโน้ม” ว่ามีคุณภาพดีกว่าของถูก แต่ก็มีบ้างเช่นกันที่ของถูกก็มีคุณภาพดีจนเรียกได้ว่า “คุ้มค่าเกินราคา” แต่ทีนี้เราจะรู้ได้อย่างไรว่าจอที่เราซื้อมันคุ้มค่าแก่การลงทุนหรือเปล่า ให้ลองพิจารณาจากสเปกหรือตัวเลขของคุณสมบัติต่อไปนี้

●    Response Time 
คือการตอบสนองของภาพ ยิ่งต่ำยิ่งตอบสนองได้ดี จอสำหรับการเล่นเกมส่วนใหญ่จะอยู่ที่ 1ms (มิลลิวินาที –คือเอาชั่วระยะเวลา 1 วินาทีมาซอยเป็น 10 ส่วน) แต่จอที่อาจจะถูกลงมากหรือจอสำหรับการทำงานที่ไม่ได้ใช้เล่นเกมอาจจะมีค่า Response Time ประมาณ 4 - 7 ms ซึ่งถ้ามองหยาบ ๆ หรือไม่ได้ใช้งานเพื่อตอบสนองที่ว่องไวอย่างการเล่นเกม ก็แทบจะไม่รู้สึก แต่สำหรับคนที่ใช้เล่นเกมมีผลแน่นอนครับ 

 

●    Refresh Rate
คือความถี่ในการอัพเดทภาพขึ้นบนจอ มีหน่วยเป็นเฮิร์ซ (Hz) ยิ่งค่ารีเฟรชเรทสูงเท่าไหร่ ยิ่งทำให้ผู้ใช้งานสามารถมองเห็นภาพที่ใกล้เคียงกับเรียลไทม์มากขึ้นเท่านั้น ซึ่งตรงนี้จะมีผลอย่างมากกับนักกีฬาอีสปอร์ตที่ต้องช่วงชิงกันในการแง่ของเวลา พูดให้เห็นภาพง่ายๆ ก็คือเห็นก่อนก็ยิงได้ก่อน หรือยิ่งไปกว่านั้นก็คือ อัตรารีเฟรชภาพสูงก็ทำให้กะจังหวะการดักยิงได้แม่นยำกว่าคนที่ใช้จอที่แสดงภาพแบบหยาบ โดยหน้าจอสำหรับการเล่นเกมโดยเฉพาะประเภทยิงควรเริ่มต้นที่ 144Hz ขึ้นไปตามกำลังทรัพย์ เพราะยิ่งเฮิร์ซสูงมาก แน่นอนว่าราคาไต่ตามขึ้นไปด้วยเช่นกัน 

 

●    ขนาดของจอ 
ขนาดของจอ 21,24,27,32 ส่วนใหญ่จะวัดกันเป็นหน่วย “นิ้ว” โดยวัดทแยงมุมล่างด้านหนึ่งของจอไปยังมุมทแยงตรงกันกัน เรื่องขนาดของจอที่เหมาะสมเป็นเรื่องที่เฉพาะคนมากๆ ขึ้นอยู่กับการใช้งานและความกว้างของการกวาดสายตา เช่น คนใช้ทำงานทีละหลายโปรแกรม เปิดทีละหลายๆ หน้าต่าง อาจจะชอบจอที่ยาวและกว้างมากๆ แต่สำหรับคนเล่นเกมบางคนอาจจะต้องการเพียง 21” หรือ 24” เพราะใหญ่กว่านี้ก็กวาดตาได้ช้าลงรวมถึงกวาดเมาส์ได้ช้าลง ขึ้นอยู่กับปฏิกิริยาตอบสนองของร่างกายของแต่ละคนด้วย

 

●    Resolution 
คือค่าความละเอียดจอ มีหน่วยเป็นพิกเซล ค่านี้ไม่ต้องพูดอะไรมาก ยิ่งมีความละเอียดสูงภาพก็ยิ่งคมชัด อย่างเวลาเราเปิดยูทู้บก็คงไม่มีใครอยากดูวิดิโอที่มีความละเอียดของภาพที่ 140p หรอกใช่มั้ยครับ แต่ทั้งนี้ความละเอียดหน้าจอก็ขึ้นอยู่กับความละเอียดของไฟล์ภาพที่นำมาแสดงด้วย ต่อให้จอเรารองรับความละเอียดสูง 4K แต่ไฟล์ที่นำมาเปิดมีความละเอียดที่ 720p ก็แสดงความละเอียดได้แค่ 720p เท่านั้น 

 

●    ความแม่นยำของสี 
จอแต่ละเจ้าให้ความเที่ยงตรงและขอบเขตของสีไม่เท่ากัน จอที่เรียกว่ามีประสิทธิภาพดีคือจอที่แสดงผลของสีที่มีแม่นยำสูง 
โดยจอสามารถแบ่งประเภทตามพาเนล (Panel)ได้เป็น IPS, VA และ TN 
สายกราฟิกหรือคนทำงานที่ต้องการความแม่นยำและเที่ยงตรงของสีสูงก็ควรใช้จอประเภท IPS ส่วนเกมเมอร์ที่ต้องการการตอบสนองเร็วๆ มีอัตราการรีเฟรชภาพสูงเพื่อให้ทันกับเรียลไทม์ จอประเภท TN อาจจะเหมาะกว่า แต่ก็แลกมาด้วยสีสันที่ไม่ได้เที่ยงตรงนักและมุมภาพที่แคบลง ส่วนจอประเภท VA นั้นก็เป็นประเภทจอแบบกลางๆ เหมาะสำหรับคนใช้งานทั่วไป ไม่ได้มีการใช้งานที่เจาะจงเป็นพิเศษ ก็จะราคามิตรภาพขึ้นมาหน่อย แต่คุณสมบัติก็ลดทอนลงไปตามราคาด้วยเช่นกัน

 

●    Panel ของจอ
 คือรูปแบบหรือประเภทของจอ LCD ซึ่งจะแตกต่างกันในแง่ของการเรียงเม็ดสีและโมเลกุลภายใน ซึ่ง Panel ที่แตกต่างกันก็จะมีคุณสมบัติแตกต่างกันออกไปโดยปัจจุบันนิยมกันอยู่ 3 แบบคือ IPS, VA และ TN ซึ่งแต่ละ panel ก็มีจุดเด่นแตกต่างกันไปตามที่อธิบายข้างต้น

 

 

อันที่จริงแล้วการ์ดจอก็มีหน้าที่ลักษณะเดียวกันกับ CPU เลยครับ เพียงแต่รูปแบบและหน้าที่ของเขาจะเน้นการถอดรหัสและประมวลภาพและกราฟฟิกต่าง ๆ ภายในเกม ทำให้การ์ดจอที่มีความสามารถในการประมวลผลสูงมีราคาแพงมากๆ เพราะสามารถรีดประสิทธิภาพของเกมนั้นได้ดีขึ้น ทำให้เราสามารถเล่นเกมนั้น ๆ ได้อย่างไหลลื่น

ยกตัวอย่าง การ์ดจอระดับกลาง ๆ อย่าง GTX 1660 ก็อาจจะเล่นเกมระดับ AAA (เกมคุณภาพดี ที่มีกราฟฟิกสวยงาม) ที่กราฟฟิกที่ระดับ high อาจจะเล่นได้ที่เฟรมเรทประมาณ  60-70 FPS ซึ่งถ้าหากอยากได้ความไหลลื่นมากขึ้น เราอาจจะต้องลดคุณภาพกราฟฟิกเป็น Medium หรือ Low เพื่อให้ได้ Frame rate ที่ 100 - 120 FPS ครับ แต่หากเป็นการ์ดจอระดับสูงอย่าง RTX 3090 เล่นเกมเดียวกันที่กราฟที่ High ก็อาจจะได้เฟรมเรทที่ 120-140 FPS ด้วยซ้ำเมื่อเล่นเกมเดียวกัน 

 

 

จอกาก...แต่การ์ดจอเทพ เปรียบเทียบง่าย ๆ เหมือนคุณมีกล่องที่เล็กมาก ๆ กับลูกโป่งที่ใบใหญ่มาก ๆ ถ้าคุณเป่าลูกโป่งในกล่องมันก็จะได้ขนาดแค่กล่อง ใหญ่ไปกว่านี้ไม่ได้แล้วนอกจากคุณจะเปลี่ยนกล่องให้ใหญ่ขึ้น ลูกโป่งก็จะใหญ่ขึ้นได้อีกจนกว่าจะถึงขีดจำกัดของมัน
ฉะนั้นคนที่ลงทุนกับการ์ดจอหลายหมื่นบาทแต่เขียมกับงบของหน้าจอก็เท่ากับว่า เราจะไม่ได้เห็นความสามารถที่แท้จริงของการ์ดจอเราเลย

สรุปแล้วถ้าตัดสินใจลงทุนกับการ์ดจอเทพแล้ว จอก็ควรเทพตามด้วย ส่วนจะได้ราคาถูกหรือแพงอันนี้แล้วแต่ดวงและกระเป๋าตังค์ของแต่ละคน ขอแค่พิจารณาคุณสมบัติของหน้าจอตามที่แนะนำไปข้างต้นให้เหมาะสมกับความสามารถของการ์ดจอก็เป็นอันใช้ได้ครับ